เมนู

เป็นต้น ที่เป็นไปข้างหน้าด้วยอาทีนวานุปัสสนา ชื่อว่าหลุดพ้นแล้ว คือพ้น
วิเศษแล้วโดยประการทั้งปวง ด้วยสมุจเฉทวิมุตติตามลำดับมรรคผล และด้วย
ปฏิปัสสัทธิวิมุตติอีก. อธิบายว่า บัดนี้ สิ่งที่จะต้องหลุดพ้นไม่มีแก่พระเถรีนั้น.
อนึ่ง การกล่าวคาถาเป็นอุทานนี้แหละ เป็นการพยากรณ์พระอรหัตผลของ
พระเถรีนั้นแล.
จบ อรรถกถาธัมมาเถรีคาถา

18. สังฆาเถรีคาถา


[419] ข้าพเจ้าละเรือน ละบุตรและสัตว์เลี้ยง ซึ่ง
เป็นที่รัก บวชแล้ว ละราคะและโทสะและสำรอก
อวิชชาเสีย ถอนตัณหาขึ้นพร้อมทั้งราก เป็นผู้สงบ
ระงับดับสนิทแล้ว.

จบ สังฆาเถรีคาถา

18. อรรถกถาสังฆาเถรีคาถา


คาถาว่า หิตฺวา ฆเร ปพฺพชิตฺวา เป็นต้น เป็นคาถาของพระ
เถรีชื่อสังฆา.
เรื่องของพระเถรีชื่อสังฆานั้น เหมือนเรื่องของพระเถรีชื่อธีรา ก็พระ
เถรีชื่อสังฆานั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว ได้กล่าวคาถาว่า

ข้าพเจ้าละเรือน ละบุตร และสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็น
ที่รัก บวชแล้ว ละราคะและโทสะและสำรอกอวิชชา
เสีย ถอนตัณหาขึ้นพร้อมทั้งราก เป็นผู้สงบระงับดับ
สนิทแล้ว.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า หิตฺวา แปลว่า ละแล้ว. บทว่า ฆเร
ได้แก่ เรือน. ฆรศัพท์ในชื่อแม้อย่างเดียวกัน บางคราวท่านกล่าวขยายในข้อ
ความมากอย่างเหมือนพืช. บทว่า หิตฺวา ปุตฺตํ ปิสุํ ปิยํ ความว่า ละบุตร
และสัตว์เลี้ยงมีโคกระบือเป็นต้นที่น่ารัก ด้วยการละฉันทราคะที่เกี่ยวเนื่องกับ
บุตรและสัตว์เลี้ยงนั้น. บทว่า หิตฺวา ราคญฺจ โทสญฺจ ความว่า ถอน
ราคะซึ่งมีภาพกำหนัด และโทสะซึ่งมีสภาพขัดเคือง ด้วยอริยมรรค. บทว่า
อวิชฺชญฺจ วิราชิย ความว่า และสำรอกโมหะซึ่งเป็นเบื้องต้นในอกุศลทั้ง
หมด. อธิบายว่า ถอนขึ้นด้วยมรรค ดังนี้นั่นเทียว. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าว
แล้วแล.
จบ อรรถกถาสังฆาเถรีคาถา
จบ อรรถกถาเอกนิบาต

เถรีคาถา ทุกนิบาต


ว่าด้วยคาถาต่าง ๆ ในทุกนิบาต


1. นันทาเถรีคาถา


[420] ดูก่อนนันทา เธอจงเห็นร่างกายอันกระดูก
300 ท่อนยกขึ้นแล้ว อันกระสับกระส่าย ไม่สะอาด
เปื่อยเน่า จงอบรมจิตให้ตั้งมั่น มีอารมณ์เดียว ด้วย
อสุภภาวนา อนึ่ง เธอจงอบรมจิตให้หานิมิตมิได้ ละ
เสียซึ่งอนุสัยคือมานะ เพราะการละมานะได้นั้น เธอ
จักเป็นผู้สงบเที่ยวไป.

จบ นันทาเถรีคาถา

อรรถกถาทุกนิบาต


1. อรรถกถาอภิรูปนันทาเถรีคาถา


ในทุกนิบาต มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
คาถาว่า อาตุรํ อสุจึ ปูตึ เป็นต้น เป็นคาถาสำหรับนางสิกข-
มานาชื่ออภิรูปนันทา.
เล่ากันว่า นางสิกขมานาชื่ออภิรูปนันทานี้ เป็นธิดาของคฤหบดี
มหาศาล ในพันธุมตีนคร ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคพระนามวิปัสสี ฟัง
ธรรมในสำนักของพระศาสดา ตั้งอยู่ในสรณะและศีลห้า เมื่อพระศาสดา